แนะนำ 5 นิยาย Epic Fantasy สุดมันส์ที่คุณไม่ควรพลาด

วันนี้ผมมีเรื่องสนุก ๆ มาแชร์สำหรับใครที่เป็นสายอ่านหนังสือ โดยเฉพาะคอนิยายแนว Epic Fantasy หรือนิยายมหากาพย์สมัยใหม่ ผมชอบอ่านนิยายแนว Epic Fantasy มาก ๆ เพราะมันพาเราหลุดเข้าไปในโลกจินตนาการที่กว้างใหญ่ เต็มไปด้วยการผจญภัย เวทมนตร์ การเมืองที่เข้มข้น และตัวละครที่น่าสนใจ วันนี้ผมจึงอยากจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับหนังสือนิยายเล่มที่ผมเคยอ่านและประทับใจมาก ๆ

ก่อนจะเข้าเนื้อหา ผมขอเกริ่นนิดนึงนะครับว่า บางซีรีส์ที่ผมจะแนะนำนี้ยังเขียนไม่จบ บางซีรีส์ก็ถูกแบ่งออกเป็นหลายไตรภาค ซึ่งแต่ละไตรภาคสามารถอ่านแยกกันได้ และบางซีรีส์ก็ถูกเขียนจนจบแล้ว แต่รับรองว่าทุกเรื่องสนุกและคุ้มค่าแก่การอ่านแน่นอนครับ

1. Stormlight Archive โดย Brandon Sanderson

เริ่มกันที่ซีรีส์แรกกันเลย นั่นก็คือ Stormlight Archive ผลงานของ Brandon Sanderson นักเขียนชื่อดังที่เป็นที่รู้จักในวงการนิยาย Fantasy ซีรีส์นี้วางแผนไว้ทั้งหมด 10 เล่ม (แบ่งเป็นสองชุด ชุดละ 5 เล่ม) โดยปัจจุบันออกมาแล้ว 4 เล่ม

จุดเด่นของ Stormlight Archive คือโลกที่มีเอกลักษณ์มาก ๆ ทั้งระบบเวทมนตร์ที่ใช้พลังจากพายุ สิ่งมีชีวิตแปลกใหม่ และการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีกับเวทมนตร์ได้อย่างลงตัว ตัวละครหลักแต่ละตัวมีเสน่ห์และพัฒนาการที่น่าติดตาม

เรื่องราวของ Stormlight Archive เกิดขึ้นในโลกที่เรียกว่า Roshar ซึ่งเผชิญกับพายุรุนแรงเป็นประจำ และกำลังอยู่ในช่วงสงครามระหว่างมนุษย์กับเผ่าพันธุ์ที่เรียกว่า Parshendi เราจะติดตามตัวละครหลักหลายคน รวมถึง Kaladin ทหารที่ตกเป็นทาส Shallan สาวน้อยที่มีความลับ และ Dalinar อัศวินผู้ทรงเกียรติที่ถูกหลอกหลอนด้วยนิมิต แต่ละคนต้องเผชิญกับความท้าทายและค้นพบพลังลึกลับที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง

ซีรีย์ Stormlight Archive เป็นซีรีย์ที่มีความเป็นแฟนตาซีสูง มีความยากในการอ่านระดับสูง แต่ด้วยสไตล์การเขียนของ Brandon Sanderson ที่จะเน้นบทบรรยายแบบตรงไปตรงมา ซึ่งบางคนอาจไม่ชอบ เพราะบางคนชอบสไตล์การบรรยายที่มีความสวยงามทางภาษาอย่างงานเขียนของ George R. R. Martin (Game of Thrones) หรือ Patrick Rothfuss แต่ด้วยสไตล์การเขียนที่เน้นการบรรยายแบบตรงไปตรงมาจะทำให้ผู้อ่านอ่านเข้าใจง่ายขึ้น และรวดเร็วขึ้น จึงเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของงานเขียนของ Brandon Sanderson เช่นกัน ถ้าคุณชอบนิยายที่มีโลกกว้างใหญ่ ระบบเวทมนตร์ที่ซับซ้อน และการเล่าเรื่องที่สลับมุมมองหลายตัวละคร Stormlight Archive เป็นซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดเลยครับ

2. Mistborn โดย Brandon Sanderson

อีกหนึ่งผลงานเด็ดจาก Brandon Sanderson ที่ผมอยากแนะนำคือ Mistborn ซีรีส์นี้แบ่งออกเป็นสองยุค โดยยุคแรกเป็นไตรภาคที่จบในตัวเอง และยุคที่สองเป็นชุดสี่เล่มที่เกิดขึ้นหลังจากยุคแรกหลายร้อยปี

จุดเด่นของ Mistborn อยู่ที่ระบบเวทมนตร์ที่เรียกว่า Allomancy ซึ่งใช้โลหะเป็นแหล่งพลัง แต่ละโลหะให้พลังที่แตกต่างกัน ทำให้การต่อสู้และการใช้เวทมนตร์ในเรื่องนี้มีความน่าตื่นเต้นและแปลกใหม่มาก

ไตรภาคแรกของ Mistborn เล่าถึงโลกที่ถูกปกครองโดยจักรพรรดิผู้ทรงอำนาจที่เรียกว่า Lord Ruler มานานนับพันปี เราจะติดตามเรื่องราวของ Vin สาวน้อยขอทานที่ค้นพบว่าตัวเองมีพลัง Allomancy และ Kelsier หัวหน้ากลุ่มโจรที่วางแผนโค่นล้ม Lord Ruler พวกเขาต้องรวมพลังกันเพื่อนำการปฏิวัติครั้งใหญ่มาสู่อาณาจักรที่กดขี่นี้

นอกจากนี้ เรื่องราวของ Mistborn ยังมีการพลิกผันที่น่าตื่นเต้น การวางแผนระยะยาว และตัวละครที่มีมิติ ทำให้ผู้อ่านติดตามไม่วางเลยทีเดียว

3. The First Law โดย Joe Abercrombie

สำหรับคนที่ชอบ Fantasy แนวมืดหน่อย ๆ (Dark กว่า Game of Thrones / A Song of Ice and Fires) มีความสมจริงและดิบเถื่อน The First Law ของ Joe Abercrombie น่าจะถูกใจคุณแน่นอน ซีรีส์นี้ประกอบด้วยไตรภาคหลักและนิยายที่เกี่ยวข้องอีกหลายเล่ม

จุดเด่นของ The First Law อยู่ที่การสร้างตัวละครที่มีความซับซ้อน ไม่มีใครที่เป็นฮีโร่แบบชัดเจน ทุกคนมีด้านมืดและด้านสว่างในตัวเอง ทำให้เรื่องราวมีความสมจริงและน่าติดตาม

ไตรภาคแรกของ The First Law เล่าถึงเรื่องราวในอาณาจักรที่กำลังเผชิญกับภัยคุกคามทั้งจากภายในและภายนอก เราจะได้ติดตามตัวละครหลายคน เช่น Logen Ninefingers นักรบเก่าที่พยายามหนีอดีตอันรุนแรง, Sand dan Glokta อดีตทหารที่กลายเป็นนักสอบสวนโหดเหี้ยม และ Jezal dan Luthar ทหารหนุ่มที่หลงตัวเอง แต่ละคนต้องเผชิญกับการเมืองที่ซับซ้อน สงคราม และเวทมนตร์ที่ลึกลับ

นอกจากนี้ การเขียนฉากต่อสู้ของ Abercrombie ยังได้รับคำชื่นชมว่าสมจริงและตื่นเต้นมาก ถ้าคุณชอบ Fantasy ที่มีความเป็นผู้ใหญ่ ไม่หวานเกินไป และมีการเมืองที่ซับซ้อน The First Law น่าจะเหมาะกับคุณครับ แต่หากใครที่ชื่นชอบระบบเวทมนตร์และความเป็นแฟนตาซีสูงๆ อย่าง The Lord of the Ring ก็อาจจะต้องขอเตือนนิดนึงว่า หนังสือซีรีย์ The First Law จะมีความเป็นแฟนตาซีน้อยกว่า และจะเน้นไปที่การเดินเรื่อง และตัวละครมากกว่า

หากใครฟังก์ Audio Book อย่าง Audible ผมอยากจะแนะนำให้ฟังก์เป็นเวอร์ชั่น Audio book มาก เพราะซีรีย์เรื่องนี้บรรยายโดย Steven Pacey ที่ให้เสียงบรรยายได้เก่งมาก มากที่สุดตั้งแต่ที่ผมเคยฟังมาจากนักพากย์หลาก ๆ คน ผมยกให้เป็นอันดับหนึ่งของการพากย์เสียงบรรยายใน Audio Book เลย

4. Wheel of Time โดย Robert Jordan

Wheel of Time เป็นซีรีส์ยาวที่เป็นตำนานในวงการ Epic Fantasy เลยก็ว่าได้ ประกอบด้วยหนังสือทั้งหมด 14 เล่ม บวกกับนิยายสั้นอีกหนึ่งเล่ม (เล่มที่ 0)

จุดเด่นของ Wheel of Time คือโลกที่กว้างใหญ่และซับซ้อน มีระบบเวทมนตร์ที่น่าสนใจ และตัวละครจำนวนมากที่มีพัฒนาการตลอดทั้งซีรีส์ เรื่องราวเริ่มต้นจากหมู่บ้านเล็ก ๆ และค่อย ๆ ขยายออกไปจนกลายเป็นมหากาพย์ที่ครอบคลุมทั้งโลก

เรื่องราวของ Wheel of Time เริ่มต้นเมื่อ Moiraine นักเวทย์สาวเดินทางมาถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งและพบกับกลุ่มวัยรุ่น นำโดย Rand al'Thor เธอเชื่อว่าหนึ่งในพวกเขาคือ Dragon Reborn ผู้ที่ถูกทำนายว่าจะเป็นทั้งผู้ช่วยเหลือและผู้ทำลายโลก พวกเขาต้องออกเดินทางผจญภัยเพื่อต่อสู้กับ Dark One ศัตรูแห่งแสงสว่าง ระหว่างทางพวกเขาต้องเผชิญกับภัยอันตราย การเมือง และชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้

แม้ว่าบางคนอาจรู้สึกว่าซีรีส์นี้ยาวเกินไป แต่สำหรับคนที่ชอบนิยายที่มีรายละเอียดมาก ๆ และอยากจมดิ่งลงไปในโลกแฟนตาซีที่สมบูรณ์แบบ Wheel of Time เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากครับ นอกจากนี้ ซีรีย์เรื่องนี้ก็ถูกนำมาทำเป็นซีรีย์ทาง Amazon Prime ด้วย (แต่ได้คะแนนวิจารณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก)

5. The Kingkiller Chronicle โดย Patrick Rothfuss

ปิดท้ายด้วย The Kingkiller Chronicle ของ Patrick Rothfuss ซีรีส์นี้วางแผนไว้เป็นไตรภาค แต่ปัจจุบันออกมาแล้ว 2 เล่ม (และยังรอเล่มสุดท้ายกันอยู่)

จุดเด่นของ The Kingkiller Chronicle อยู่ที่การเล่าเรื่องที่สวยงามมาก Rothfuss มีลีลาการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้การอ่านเรื่องนี้เหมือนกำลังฟังบทกวีที่ไพเราะ

เรื่องราวเล่าถึงชีวิตของ Kvothe ตั้งแต่วัยเด็กจนเติบโตขึ้นเป็นนักเวทย์และนักดนตรีที่มีชื่อเสียง โดยมีการผสมผสานระหว่างโรงเรียนเวทมนตร์ การผจญภัย และเรื่องราวความรักได้อย่างลงตัว

The Kingkiller Chronicle เล่าเรื่องราวผ่านการเล่าเรื่องซ้อนเรื่อง โดยเราจะได้พบกับ Kvothe ในปัจจุบันที่กำลังเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาให้กับนักประพันธ์ชีวประวัติฟัง เราจะได้ติดตามชีวิตของ Kvothe ตั้งแต่เป็นเด็กในคณะนักแสดงเร่ร่อน ผ่านโศกนาฏกรรมที่ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตเป็นเด็กข้างถนน จนกระทั่งได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเวทมนตร์

ระหว่างทาง Kvothe ต้องเผชิญกับความยากจน การเมืองในมหาวิทยาลัย และการไล่ล่าความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ลึกลับที่ทำลายครอบครัวของเขา นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวความรักระหว่าง Kvothe กับ Denna หญิงสาวปริศนาที่เข้ามาพัวพันกับชีวิตของเขา

ที่น่าสนใจคือ เรื่องราวในอดีตของ Kvothe ตัดสลับกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน ทำให้เราได้เห็นความแตกต่างระหว่าง Kvothe ในอดีตที่เป็นวีรบุรุษ กับ Kvothe ในปัจจุบันที่ดูเหมือนคนธรรมดาที่หลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก ทำให้เกิดคำถามว่าอะไรทำให้เขาเปลี่ยนไปมากขนาดนี้

แม้ว่าจะยังไม่จบซีรีส์ แต่สองเล่มแรกของ The Kingkiller Chronicle ก็เป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ นิยาย Fantasy ทั่วโลก และคุ้มค่าแก่การอ่านมาก ๆ ครับ ภาษาที่สวยงาม การสร้างโลก และตัวละครที่มีมิติ ทำให้เรื่องนี้เป็นหนึ่งในผลงาน Fantasy ที่โดดเด่นที่สุดในยุคปัจจุบัน แต่หากสนใจซีรีย์เรื่องนี้ ก็ขอให้ทำใจไว้ก่อนว่ากว่าเล่มสุดท้ายจะออกมาก็คงอีกนาน

สรุป

ทั้ง 5 ซีรีส์ที่ผมแนะนำมานี้ ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานชั้นยอดในวงการนิยาย Epic Fantasy ทั้งสิ้น แต่ละเรื่องมีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป:

1. Stormlight Archive โดดเด่นด้วยโลกที่แปลกใหม่และระบบเวทมนตร์ที่ซับซ้อน

2. Mistborn มีระบบเวทมนตร์ที่เป็นเอกลักษณ์และการพลิกผันของเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น

3. The First Law นำเสนอ Fantasy แนวสมจริงและดิบเถื่อน พร้อมตัวละครที่ซับซ้อน

4. Wheel of Time พาคุณดำดิ่งสู่โลก Fantasy ขนาดใหญ่ที่มีรายละเอียดมากมาย

5. The Kingkiller Chronicle มอบประสบการณ์การอ่านที่เหมือนบทกวี พร้อมเรื่องราวที่น่าติดตาม

การเลือกว่าจะเริ่มอ่านเรื่องไหนก่อนนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน ถ้าคุณชอบโลกแฟนตาซีที่แปลกใหม่และระบบเวทมนตร์ที่ซับซ้อน Stormlight Archive หรือ Mistborn อาจเหมาะกับคุณ แต่ถ้าคุณชอบเรื่องราวที่สมจริงและดิบเถื่อนมากกว่า The First Law น่าจะถูกใจคุณ

สำหรับคนที่ชอบเรื่องยาว ๆ และอยากจมดิ่งลงไปในโลกแฟนตาซีที่มีรายละเอียดมาก ๆ Wheel of Time เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ส่วนใครที่ชื่นชอบการเล่าเรื่องที่สวยงามและตัวเอกที่น่าสนใจ The Kingkiller Chronicle น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

ไม่ว่าคุณจะเลือกเริ่มจากเรื่องไหน ผมรับรองว่าคุณจะได้ดื่มด่ำกับโลกแฟนตาซีที่น่าตื่นตาตื่นใจ และอาจจะติดงอมแงมจนอยากอ่านให้ครบทุกเรื่องเลยทีเดียว

แล้วคุณล่ะครับ เคยอ่านเรื่องไหนมาบ้างแล้ว? หรือมีเรื่องอื่น ๆ ที่อยากแนะนำเพิ่มเติมไหม? แชร์กันมาได้ในคอมเมนต์เลยนะครับ ผมเองก็อยากได้ไอเดียหนังสือดี ๆ ไปอ่านต่อเหมือนกัน!

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านนะครับ และหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้พบกับนิยาย Epic Fantasy เล่มโปรดเล่มใหม่ ๆ Happy reading ครับ!